ภูตผีปีศาจในตำนานจากทั่วทุกมุมโลก
เชื่อว่าทุกๆ คนคงจะเคยได้ยินเรื่องราวเร้นลับเกี่ยวกับ “ภูตผีปีศาจ” กันมาแล้วไม่มากก็น้อย ไม่ว่าคุณจะเป็นคนทวีปไหนหรือประเทศไหนก็ตาม คุณจะได้ยินเรื่องเล่าตามแบบฉบับของท้องถิ่นของตนเอง ซึ่งเป็นความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ สำหรับวันนี้เราก็มีเรื่องเด็ดๆ มานำเสนอเช่นเคยกับ 10 อันดับ สุดยอดภูตผีปีศาจในตำนานจากทั่วทุกมุมโลก
อันดับ 1 แวมไพร์
ผีชนิดหนึ่งตามความเชื่อของชาวยุโรปในยุคกลาง เชื่อว่าเป็น “ผีดิบ” ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่มีฟันแหลมคม ดื่มเลือดของมนุษย์ด้วยกันเป็นอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต โดยที่แวมไพร์จะมีชีวิตเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย จะปรากฏตัวได้แต่เฉพาะเวลากลางคืน เพราะกลางวันแพ้แสงแดด (หากถูกแสงแดดจะตาย) ฉะนั้นในเวลากลางวันแวมไพร์จะหลบซ่อนอยู่ในโลงของตน
สิ่งที่จะกำราบแวมไพร์ ได้คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา เช่น ไม้กางเขน, น้ำมนตร์ หรือแม้กระทั่งสมุนไพรกลิ่นแรงบางชนิด เช่น กระเทียม วิธีฆ่าแวมไพร์ อาทิ ตอกลิ่มให้ทะลุหัวใจ เผา หรือ ตัดหัวด้วยจอบของสัปเหร่อ บุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของมัน จะกลายเป็น แวมไพร์ ไปด้วย และกลายเป็นสาวกของ แวมไพร์ ตนที่ดูดเลือดตัวเอง
ชาวยุโรปในยุคกลางนั้น หวาดกลัวแวมไพร์มาก ผู้ที่สงสัยว่าเป็นแวมไพร์ จะตกอยู่ในสถานะเดียวกับแม่มด หรือ มนุษย์หมาป่า คือ ถูกตัดสินลงโทษด้วยการเอาถึงชีวิต
แวมไพร์สามารถแปลงร่างได้หลายแบบ เช่น ค้างคาว, นกฮูก, หมาป่า, กบ, คางคก, แมลงเม่า, งูพิษ เป็นต้น สามารถกำบังกายหายตัวได้ ไม่มีเงาเมื่อกระทบกับแสงหรือสะท้อนในกระจก มีแรงมากเหมือนผู้ชาย 20 คน
อันดับ 2 ไลแคนท์
ไลแคนท์ หรือ Lycantrope คือ มนุษย์ที่ถูกสาบด้วยเวทมนต์ หรือด้วยความยินยอม หรือถูกกัดโดยไลแคนท์ตัวอื่น (สืบทอดทางสายเลือดด้วย) ในตอนแรกจะเป็นเพียงชั่วคราว แต่ถ้าปล่อยจนเนิ่นนานจะกลายเป็นไลแคนท์เต็มตัว เพราะจะไม่สามารถควบคุมจิตใจของตนได้อีกต่อไป
ส่วนวิธีแก้ ไลแคนท์ คือ ต้องถอนคำสาปก่อนที่จะกลายเป็นไลแคนท์เต็มตัว ไม่งันจะกลับไปเป็นมนุษย์อีกไม่ได้ แต่ว่าถ้าสิบทางสายเลือดนี่ หมดทางเยียวยา! บางครั้งอาจเรียกมนุษย์ที่ถูกสาปเป็นสัตว์ร้ายว่า Lycantrope ได้เหมือนกัน
อันดับ 3 มานานังเกล
โดยรูปร่างของ มานานังเกล มีรูปร่าง และหน้าเป็นผู้หญิงโบราณสวย แต่มีปีกขนาดใหญ่ที่หลังมีความสามารถถอดลำตัวของมันแยกออกได้โดยไม่ตาย และบินออกไปหาเหยื่อ เรื่องของมานานังเกลนั้นน่ากลัวมาก โดยที่เกาะวิซายันผู้คนจะแขวนกระเทียมจำนวนมาก เพื่อป้องกันเจ้า มานานังเกล
นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่าถ้าเอาเกลือมาพรมที่พักของ มานานังเกล และพรมที่ท่อนบนที่เจ้า มานานังเกล แยกตัวออก (ตรงรอยต่อนั้นแหละ) มันจะตายเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ความจริง มานานังเกล ก็ไม่มีอันตรายอย่างตรงไปตรงมา เว้นสิ่งเหลวที่พ่นใส่ปากหญิงตั้งครรภ์จะทำลายเด็กในครรภ์ได้ ชอบกินหัวใจเด็ก (เหมือนปอบ) ชอบกินลูกไก่ของชาวบ้านอีกด้วย
อันดับ 4 เสือสมิง
เสือสมิงเป็นตำนานที่กล่าวขานกันมาแต่นมนาน ถึงความน่ากลัวของศาสตร์อาถรรพ์ ตำนานเสือสมิงเล่าต่อๆ กันมาว่าเป็นเสือที่ดุร้ายและมักชอบจับคนกินเป็นอาหารเมื่อกินคนมากเข้าวิญญาณคนที่ินเข้าไปนั้น ก็อยู่สิงสู่ในกายเสือ ทำให้เสือตัวนั้นมีพลังอาถรรพ์ ที่สามารถจำแลงแปลงกาย เป็นใครต่อใครก็ได้ เพื่อหลอกล่อเหยื่อให้หลงกล
ครั้นยิ่งกินคนมากขึ้น วิญญาณก็ยิ่งสิงสู่ในตัวเสือมากขึ้น เสือตัวนั้นก็ยิ่งมีฤทธิ์มีอำนาจมากขึ้นเป็นทวีคูณ อีกอย่างที่ทำให้เกิดความเป็นเสือสมิง คือ พวกที่เรียนวิชาเสือ คือการเรียกเอาวิญญาณเสือนั้นมาเข้าสิงในตน ผนวกกับคนผู้นั้นร่ำเรียนอาคมในทางเดรัจฉานวิชาด้วย
อันดับ 5 Ala
เป็นสัตว์ในตำนานที่บันทึกไว้ใน บัลแกเรีย ลักษณะเป็นเหมือนลมสีดำ รูปร่างไม่แน่ชัด อาจจะเกิดจากสภาพอากาศที่เลวร้าย ที่สำคัญมันมีความโลภมากๆ และชอบกินเด็กอีกด้วย
บางเผ่า ยังมีความเชื่อว่า เจ้า Ala สามารถกลินกิน พระอาทิตย์หรือ ดวงจันทร์ ได้อีกด้วย ทำให้ก่อให้เกิดสุริยุปราคา ถ้ามันทำสำเร็จจะหมายถึงหายนะของโลกนี้
อันดับ 6 นางแมงมุม (จูโรคุโมะ)
เชื่อกันว่าเป็น แมงมุมเพศหญิง ที่มีชีวิตติดต่อกันหลายร้อยปี มันได้ดูดเลือดคนจำนวนมากจนทำให้วิชาอาคมแกร่งกล้าขึ้น พัฒนาเป็นนางแมงมุมในตอนกลางวันนางจะแปลงร่างเป็นผู้หญิงสาวสวยหลอกล่อผู้ชาย มาดูดเลือด
ในอดีต โชกุนมินาโมโตะ โยริมิตสึ เกิดล้มป่วยลง รักษายังไงก็ไม่หายเสียที จึงได้เชิญหมอผีมาทำพิธีปัดเป่าวิญญาณ แต่ก็ไม่สำเร็จ ได้แต่ทนปวดหัว ไข้ขึ้น ทรมานอยู่อย่างนั้น กระทั่งคืนวันหนึ่ง มีพระสงฑ์รูปหนึ่ง สูงประมาณ 2 เมตรมาปรากฏตัวตรงด้านหลังโคมไฟในห้องของท่าน และย่างเท้าเข้ามาหา พร้อมกับปล่อยใยแมงมุมใส่ โชกุนตื่นขึ้นมาพอดี จึงรีบคว้าดาบของ ฮิซาคิริมารุ ซึ่งมานอนเฝ้าไข้ ขึ้นมาฟันปีศาจตนนั้นเต็มแรง
เมื่อผู้ติดตามด้านนอกได้ยินเสียงเอะอะ ก็รีบรุดเข้ามา ทันเห็นรอยเลือดหยดอยู่ข้างโคมไฟ จึงติดตามรอยนั้นไปจนถึงเนินดินเก่าๆ แห่งหนึ่ง พวกเขาจึงลองขุดเนินดินนั้นดู ก็พบปีศาจแมงมุมตัวใหญ่ ผุดขึ้นมาปล่อยใยแมงมุมอีกรอบ แต่ก็โดนฆ่าตายในที่สุด จากนั้นเป็นต้นมา ท่านโชกุนก็หายจากอาการประหลาดนี้เป็นปลิดทิ้ง และไม่เคยป่วยอีกเลยตราบสิ้นอายุขัย
อันดับ 7 ทิคบาลัง (Tikbalang)
ทิคบาลัง ทิคบาลัง เป็นสัตว์ลึกลับ ครึ่งคนครึ่งม้า ตาสีแดง รูปร่างเหมือนคน หัวเป็นม้า แต่มีสี่ขาเหมือนเซนทอร์ (สัตว์ในตำนานของกรีก) ขาของมันค่อนข้างยาวสามารถกระโดดได้ไกลมาก ที่อยู่อาศัยของมันอยู่ที่ป่าลึกของฟิลิปปินส์ โดยตามความเชื่อของชาวบ้าน ทิคบาลังชอบกินคน โดยการล่อลวงเหยื่อเข้าไปในป่า
อันดับ 8 เท็งกุ
เป็นความเชื่อเรื่องนกสามขา ที่มีอยู่ทั้งในแถบญี่ปุ่นและเกาหลี โดยทางญี่ปุ่นเชื่อว่าเท็งงุ มีภาพลักษณ์ของปีศาจร้าย และมักจะสร้างพายุเข้าโจมตีผู้คนเสมอๆ ซึ่งประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ถูกพายุถล่มบ่อยครั้ง
เท็งงุ เป็นข้ารับใช้ของ ไดเทนกุ ซึ่งมักปรากฏภาพของไดเทนกุ ที่ล้อมรอบไปด้วยเท็งงุ บางความเชื่อนั้นเชื่อว่าเท็งงุไม่ได้เป็นผีร้าย ทั้งยังเป็นปีศาจที่รักสงบและสุภาพ แต่การกระทำร้ายๆ นั้น เป็นเพราะเท็งงุต้องทำตามคำสั่งของไดเทนกุ
อันดับ 9 พญานาค
เป็นความเชื่อในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเรียกชื่อต่างๆ กัน แต่มีลักษณะเหมือนๆ กัน คือ เป็นงูขนาดใหญ่มี ตาสีแดง เกล็ดเหมือนปลา และหงอนสีทอง เป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของบันไดสู่จักรวาลอีกด้วย
ต้นกำเนิดความเชื่อเรื่อง พญานาคสัตว์ประหลาดในตำนานภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่ามาจากประเทศอินเดียเนื่องจากมีตำนานหลายเรื่องกล่าวถึงพญานาค โดยเฉพาะในมหากาพย์มหาภารตะ และตำนานพุทธประวัติ
พญานาคถือเป็นปรปักษ์กับพญาครุฑเชื่อกันว่าพญานาคอาศัยอยู่ในแม่น้ำโขง หรือ เมืองบาดาล และเชื่อกันว่าเคยมีคนเคยพบรอยพญานาคขึ้นมาในวันออกพรรษาโดยจะมีลักษณะคล้ายรอยของงูขนาดใหญ่
อันดับ 10 ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง
ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง (คีวบิโนะโยโกะ) ปีศาจในตำนานญี่ปุ่น โดยคาดว่าน่าจะเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมจากอินเดียไปยังจีน ตามเส้นทางสายไหม และไปยังญี่ปุ่นโดยการเผยแพรทางวัฒนธรรม ชาวญี่ปุ่นโบราณมักมีความเชื่อเสมอว่า สุนัขจิ้งจอกตนใดที่มีอายุเกิน 100 ปีขึ้นไป สุนัขจิ้งจอกตัวนั้นจะกลายเป็นปิศาจจิ้งจอก
ปิศาจจิ้งจอก มักจะแปลงกายมาสร้างความวุ่นวายให้กับชาวบ้านอยู่เสมอ โดยความสามารถของพวกมันคือสร้างภาพที่เคลื่อนไหวต่างๆ ให้เป็นภาพลวงตาไว้ คอยกลั่นแกล้งคนที่เดินทางผ่านป่าตอนกลางคืนได้
ที่มา:http://www.wtfintheworld.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น